ทันทีที่รถยนต์ของเราประสบอุบัติเหตุ ได้รับแรงกระแทก กล้องติดรถยนต์ก็จะทำการล็อคไฟล์วิดีโอในช่วงเวลานั้นทันที เมื่อเมมโมรี่เต็ม ภาพวิดีโอก็จะไม่ถูกบันทึกทับอย่างแน่นอน เราจึงสามารถนำภาพวีโอช่วงเวลานั้นมาเป็นหลักฐานในการยืนยันข้อเท็จของตัวเองได้
โดยหลักการบันทึกภาพวีดีโอนั้นจะไม่ได้บันทึกยาวนานต่อเนื่องรวดเดียวจนจบจนเมมโมรี่เต็ม แต่จะแบ่งบันทึกออกเป็นช่วงๆ เป็นนาที อาทิเช่น ช่วงละ 3 นาที, 5 นาที, 15 นาที เป็นต้น ทำให้เราสามารถเลือกลบและเลือกเก็บช่วงเวลาที่ต้องการจะนำมาเป็นหลักฐานได้ง่ายขึ้น ราวกับว่ามีคนมาตัดต่อวิดีโอให้ และเหตุผลที่สำคัญในการแบ่งไฟล์วิดีโอของกล้องติดรถยนต์นั้นได้แบ่งออกเป็นช่วงๆ ก็คือเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการบันทึกภาพวิดีโอ ในขณะที่เมมโมรี่เต็ม โดยถ้าหากเราเลือกเป็นช่วงเวลาละ 15 นาที เมื่อเมมโมรี่เต็มในขณะที่กล้องติดรถยนต์กำลังถ่ายวิดีโอ ไฟล์ที่เก่าที่สุดก็จะถูกทับไป (ยกเว้นไฟล์ที่ถูกล็อค) และนั้นก็จะทำให้เราสูญเสียช่วงเวลา 15 นาทีแรกๆ ไปเรื่อยๆ จนกว่าการถ่ายจะสิ้นสุดลง และถ้าหากเราเลือกช่วงเวลาละ 5 นาที ก็เท่ากับว่าไฟล์เก่าจะถูกทับไปช่วงเวลาละ 5 นาที และในกรณีเดียวกันหากเราเลือกช่วงเวลาละ 3 นาที เราก็จะสูญเสียไปไฟล์เก่าๆ ไปครั้งละ 3 นาที เช่นเดียวกัน
การบันทึกทับไฟล์เก่าที่สุดก็เพื่อให้มีที่ว่างในการบันทึกไฟล์วิดีโอล่าสุด เพราะคงจะไม่มีใครจอดรถกะทันหันเพราะเมมโมรี่ของกล้องติดรถยนต์เต็มแน่นอน หรือเราอาจแก้ปัญหาไฟล์เต็มโดยการลดความชัดลงสักเล็กน้อยหรือถ้าใครเป็นคนละเอียดในการจดจำ อาจจะซื้อเมมโมรี่ไว้เพิ่มอีกสัก 2 – 3 อัน สำหรับสลับกันใส่จนกว่าจะถึงที่หมาย เมื่อเมมโมรี่แต่ละอันเต็ม