ในเวลานี้คงมีสาวๆ มากมายทีเดียวที่กำลังเดินทางไปคลินิกเสริมความงาม เพื่อทำให้หน้าใสผุดผ่องไร้ริ้วรอย ซึ่งวิธีทำให้หน้าใสนั้น อาจมีทั้งการฉีดสารเคมีต่างๆ เพื่อขจัดเม็ดสีบนใบหน้าหรือแม้กระทั่งการทำเลเซอร์ลบริ้วรอยให้หมดไป กระนั้นแม้ว่าจะได้ผลแทบจะในทันทีที่ใช้บริการ แต่ก็มีหลายคนทีเดียวที่ไม่ได้นึกถึงผลข้างเคียงที่จะตามมาในภายหลัง ทำให้เกิดผลเสียต่อใบหน้ามากมาย โดยการฉีดสารเร่งสีผิวที่ใบหน้านั้นจะเป็นการไปหยุดเม็ดสีอื่นๆ ทำให้เหลือแต่เพียงสีขาว และด้วยสารเคมีเหล่านี้ไม่สามารถไปปรับเปลี่ยนโครงของเม็ดสีผิวของเราได้ จึงทำให้เมื่อระยะเวลาผ่านไป ผิวของเราก็จะกลับคืนอย่างเดิม อาจอยู่ในระยะเวลา 6 เดือนถึง 1 ปี และเมื่อฉีดบ่อยครั้งจะเกิดการตกค้างในร่างกาย เป็นผลเสียอย่างใหญ่หลวงได้ ต่อมาวิธีทำให้หน้าใสที่นิยมรองลงคือการทำเลเซอร์ การทำเลเซอร์นั้นจะนิยมไปทางการลบริ้วรอยเสียมากกว่า การทำเลเซอร์นี้จะทำให้ใบหน้าและผิวบางลง ทำให้ไวต่อแสงแดดจึงเป็นแผลได้ง่าย และเมื่อไหร่ก็ตามที่หยุดทำ หน้าจะหมองคล้าในทันที อาจมีบางคนที่หน้าลอก เป็นผื่นตามได้อีก และแม้ว่าผลข้างเคียงจะตามมามากมายขนาดนี้ เหล่าสาวๆ ที่ต้องการมีใบหน้าที่ใสผุดผ่องก็ยังมีได้อยู่เสมอๆ บางคนอาจไม่สนใจคำเตือนจากแพทย์ เลือกที่จะเมินคำเตือนเหล่านั้น และหวังว่าวิธีทำให้หน้าใสเหล่านี้จะยั่งยืน แต่ไม่เป็นความจริงเลย เพราะต่อให้เราไปฉีดสารต่างๆ มากเท่าไหร่ แต่ขาดการพักผ่อนที่เพียงพอ อาหารที่มีประโยชน์ ร่างกายก็จะทรุดลง ใบหน้าก็จะเกิดริ้วรอยเช่นเดิม